บทเรียนที่ 3 จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องทำอะไร เวลาที่ใช้ในการอ่าน 5-7 นาที

คุณได้ทำขั้นตอนแรกไปแล้ว คุณได้เปิดคำสั่งซื้อขายและได้เห็นแล้วว่าตลาดเคลื่อนไหวอย่างไร ตอนนี้เรามาเริ่มจริงจังกันเลย คุณรู้ไหมว่ามีอะไรเกิดขึ้นบนกราฟ? ว่าแต่กราฟคืออะไร?

คุณจะใช้หลากหลายวิธีในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา องค์ประกอบทั่วไปคือการดูกราฟเพื่อทำการคาดการณ์ เราจะแสดงวิธีทำความเข้าใจกราฟและเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุด

ประเภทของกราฟ

คุณได้เริ่มต้นด้วยการใช้กราฟเส้นเพื่อตรวจสอบราคา ซึ่งมันจะมีลักษณะดังนี้:

3_2.png

กราฟเส้นคือเส้นที่แสดงให้เห็นว่าราคาเคลื่อนไหวในอดีตอย่างไร มันจะแสดงเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของราคาเท่านั้น กราฟประเภทนี้เหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่มากกว่า

ในตัวอย่างข้างต้น คุณสามารถบอกได้ง่าย ๆ เลยว่าราคากำลังขยับขึ้นเรื่อย ๆ แล้วจากนั้นก็เริ่มขยับลง

ปัญหาของกราฟเส้นคือความเรียบง่ายของมัน แต่ละจุดบนกราฟเส้นจะบอกเราว่าราคาเคยอยู่ที่จุดใดในอดีต แต่สิ่งนั้นเพียงอย่างเดียวก็ยังไม่เพียงพอ ต่อไปเราจะมาเรียนรู้กันว่ากรอบเวลาคืออะไร

กรอบเวลา จะแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด บนกราฟเส้น จะเชื่อมโยงราคาปิดของแต่ละช่วงเวลา เช่น 1 ชั่วโมง หรือ 1 วัน ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมแบบง่าย ๆ ของแนวโน้ม

ตัวอย่างด้านล่างนี้จะทำเครื่องหมายให้กับราคาปิดแต่ละราคา ซึ่งจะแสดงการเคลื่อนไหวของราคาในช่วง 10 ชั่วโมง

3_1.png

คุณจะเห็นรายละเอียดได้มากขึ้นบนกราฟแท่งเทียนดังที่แสดงอยู่ด้านล่าง

3_3.png

แท่งเทียนแต่ละแท่งจะแสดงให้เห็นว่าราคาเคลื่อนไหวอย่างไรในช่วงระยะเวลาหนึ่ง:

  • เนื้อเทียน จะแสดงราคาเปิดและราคาปิด

  • ไส้เทียนด้านบน จะแสดงราคาสูงสุดที่ได้แตะถึง

  • ไส้เทียนด้านล่าง จะแสดงราคาต่ำสุด

1_3_TH.png

แท่งเทียนจะเป็น สีเขียว หากราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเวลานั้น ในกรณีนี้ ราคาได้เริ่มต้นจากราคาเปิด (ส่วนล่างของแท่งเทียน) และได้สิ้นสุดที่ราคาปิด แท่งเทียนสีเขียวจะถูกเรียกว่า กระทิง
แท่งเทียนจะเป็น สีแดง หากราคาได้ปรับตัวลงในช่วงเวลานั้น ในกรณีนั้น ราคาได้เริ่มต้นจากราคาเปิด (ส่วนบนของแท่งเทียน) และสิ้นสุดที่ราคาปิด แท่งเทียนสีแดงจะถูกเรียกว่า กระทิง

มาเปิดกรอบเวลารายวันในแอป FBS กัน แท่งเทียนหนึ่งแท่งจะแสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาในหนึ่งวัน ดังนั้นแท่งเทียนห้าแท่งก็จะแสดงพฤติกรรมของ EURUSD ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์

3_4.png

ตอนนี้ไปที่กราฟ 5 นาที บนกราฟนี้ แท่งเทียนหนึ่งแท่งจะแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาภายในเวลา 5 นาที และภาพหน้าจอทั้งหมดจะแสดงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

3_5.png

แท่งเทียนหนึ่งแท่งจะแสดงการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงระยะเวลาที่กำหนด: เนื้อเทียน จะแสดงตำแหน่งที่แท่งเทียนเปิดและปิด ส่วน ไส้เทียน จะแสดงจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด สีเขียวจะหมายถึงราคาปรับตัวขึ้น ส่วนสีแดงจะหมายถึงราคาปรับตัวลง

คุณจะเห็นกราฟแท่งเทียนมากมายทางออนไลน์ บางครั้งคุณจะเห็นแท่งเทียนเป็นสีดำและสีขาว แต่บางครั้งก็จะเห็นเป็นแท่งเทียนสีเขียวและสีแดง

แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะสีของแท่งเทียนนั้นไม่ได้สำคัญอะไร ใน FBS เราจะใช้สีเขียวสำหรับแท่งเทียนขาขึ้นและสีแดงสำหรับแท่งเทียนขาลงเป็นค่าเริ่มต้น แต่เราก็มีตัวเลือกในการปรับแต่งสีให้เป็นไปตามที่คุณต้องการ

การคาดการณ์ราคา

พร้อมที่จะคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาครั้งแรกของคุณหรือยัง? นี่คือที่ที่การซื้อขายจริงเกิดขึ้น ลองนึกภาพว่าตลาดจะไปทางไหนก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริง ๆ เราจะใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อนำหน้าเกม

เปิดบัญชี Demo

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ข้อได้เปรียบหลักของการวิเคราะห์ทางเทคนิคคือมันเข้าใจง่าย แถมมันอาจเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างยิ่งหากใช้อย่างถูกต้อง ลองดูที่กราฟด้านล่าง

3_6.png

มันดูเหมือนจะง่ายทีเดียวหากคุณรู้วิธีการทำงานของเทียนแล้ว ราคาจะเพิ่มขึ้นทางฝั่งซ้ายของกราฟ และลดลงทางฝั่งขวา เราจะคาดการณ์จุดเปลี่ยนนั้นก่อนที่มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? เราใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค

ตัวบ่งชี้ ทางเทคนิค เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาและตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายเมื่อใด มันจะทำงานโดยอัตโนมัติและบอกคุณได้มากกว่าที่เห็นบนกราฟที่ชัดเจน หนึ่งในตัวบ่งชี้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ RSI

Relative Strength Index (RSI) จะบอกเราถึงตอนที่ราคาสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป ซึ่งจะทำให้เราทราบถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป ในกรณีนี้ RSI ได้พุ่งสูงเกินไป ซึ่งเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่ราคาควรจะลดลงเล็กน้อย

3_7.png

มาลองใช้ RSI กัน เพิ่มตัวบ่งชี้ RSI ในแอป FBS

lesson 3 add RSI_optimized.gif

เห็นไหมว่าราคาเคลื่อนไหวอย่างไรในตอนที่ RSI สูงหรือต่ำเกินไป? หากมันขึ้นสูง ราคาก็น่าจะลดลงในอีกไม่ช้า หากมันลดลงต่ำ ราคาก็อาจจะเพิ่มขึ้น ลองสังเกตช่วงเวลาเหล่านี้บนกราฟของคุณ

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

อยากรู้ว่ามีสิ่งอื่นอีกไหมที่เป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคา? เหตุการณ์ใหญ่ ๆ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาล รายงานทางการเงินจากบริษัทใหญ่ หรือข่าวระดับโลก อาจทำให้ราคาผันผวนอย่างรุนแรงรุนแรง การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐานจะเกี่ยวข้องกับการค้นหาเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้

ธนาคาร รัฐบาล และบริษัทต่าง ๆ มักแลกเปลี่ยนเงินข้ามพรมแดนกันอย่างต่อเนื่อง พวกเขาจะส่งสินค้าไปยังประเทศอื่นและรับสกุลเงินต่างประเทศ ยิ่งพวกเขาส่งมากเท่าใดก็ยิ่งต้องแลกเปลี่ยนสกุลเงินกลับมายังประเทศของตนมากขึ้นเท่านั้น

  • ธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งต่างก็ทำธุรกรรมข้ามพรมแดน

  • รัฐบาลในแต่ละประเทศจำเป็นต้องซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อชำระหนี้ของตนและสำรองเงิน

  • บริษัทขนาดใหญ่จะทำการชำระเงินเพื่อการควบรวมกิจการและการซื้อกิจการจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง

สมมติว่าคุณเห็นพาดหัวข่าวว่า ‘อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น’

  1. อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นนั้นหมายถึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

  2. ธนาคารดึงดูดเงินฝากมากขึ้น

  3. อุปทานของสกุลเงินลดลง

  4. เมื่ออุปทานมีน้อยลง มูลค่าของสกุลเงินก็มักจะเพิ่มสูงขึ้น

  5. นี่อาจเป็นสัญญาณให้พิจารณาเปิดสถานะซื้อ โดยคาดว่าสกุลเงินจะแข็งค่าขึ้น

ตัวอย่างเช่น ชุมชนการซื้อขายทั้งหมดต่างจับตามองการเผยข้อมูล CPI ของสหรัฐอเมริกา (ซึ่งเป็นการวัดการเติบโตของราคา) เมื่อดัชนี CPI สูงเกินไป ธนาคารกลางของสหรัฐฯ ก็จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ปริมาณสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดลดลง

ดังนั้นในยามที่ดัชนี CPI สูงเกินไป สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐก็มักจะแข็งค่าขึ้น

ภาพด้านล่างนี้เป็นของวันที่ 10 ตุลาคม 2024 ในตอนที่ดัชนี CPI ของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ (สูงเกินไป) ดอลลาร์สหรัฐได้พุ่งขึ้นทันที ส่วนสกุลเงินยูโรกลับร่วงลง

3_8.png

ในตอนที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวสูงขึ้น จะหมายถึงมันแข็งค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ในคู่สกุลเงิน EURUSD สกุลเงิน USD ที่แข็งค่าขึ้นนั้นหมายความว่าจะใช้เงินดอลลาร์น้อยลงในการซื้อ 1 ยูโร ซึ่งจะส่งผลให้อัตราแลกเลี่ยนของ EURUSD ลดลง

เมื่อ USD แข็งค่าขึ้น EURUSD ก็จะปรับตัวลง

โปรดทราบว่านี่เป็นตัวอย่างที่ง่ายมาก ๆ ของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เราเจาะลึกเรื่องนี้มากขึ้นในเนื้อหาขั้นสูงของเรา ซึ่งคุณจะพบว่ามีประโยชน์หลังจากที่เรียนหลักสูตรนี้ นอกจากนี้คุณสามารถอ่านบทวิเคราะห์ของเราได้ในช่อง Telegram เพื่อติดตามเหตุการณ์สำคัญทั้งหมด

มีตราสารใดบ้าง?

เทรดเดอร์ FBS ทุกคนสามารถเปิดสถานะบนหลากหลาย CFD ได้ ซึ่งทั้งหมดมีอยู่บนแพลตฟอร์มเดียว รายละเอียดโดย่อมีดังนี้:

ตราสาร

รายละเอียด

ตัวอย่าง

เคล็ดลับสำคัญ

คู่สกุลเงิน

ซื้อขายตามการเปลี่ยนแปลงของราคาสกุลเงิน คุณไม่ได้ซื้อสกุลเงินจริง ๆ แต่คุณซื้อขายคู่สกุลเงินในรูปแบบ CFD

EURUSD, GBPJPY, EURGBP

คู่สกุลเงินที่ไม่มี USD หรือ EUR จะมีสเปรดกว้างกว่าแถมยังมีความผันผวนสูงกว่า จงหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้หากคุณเพิ่งเริ่มต้น

สินค้าโภคภัณฑ์

CFD บนวัตถุดิบที่มีการซื้อขาย สิ่งที่ได้รับความนิยมได้แก่ โลหะมีค่า น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ

ทองคำ (XAUUSD), น้ำมันเบรนท์, ก๊าซธรรมชาติ

สินค้าโภคภัณฑ์อาจมีความผันผวน ให้ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อกำหนดคำสั่งซื้อขายของคุณ

หุ้น

บริษัทต่าง ๆ จะแบ่งการเป็นเจ้าของออกเป็นหุ้น ซึ่งคุณสามารถซื้อขายในรูปแบบ CFD ได้ ผลการดำเนินงานของบริษัทและความเชื่อมั่นของตลาดต่างมีอิทธิพลต่อราคาหุ้น

Amazon, Tesla, Apple

การซื้อขายหุ้นเหมาะกับการติดตามแนวโน้มตลาดในระยะยาว

ดัชนี

CFD บนกลุ่มหุ้นที่เป็นตัวแทนส่วนหนึ่งของตลาด มักใช้เป็นมาตรวัดผลการดำเนินงานของตลาดโดยรวม

S&P 500 (US500), Nasdaq (US100), Dow Jones (US30)

ใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของหุ้นแต่ละตัว หรือในตอนที่ตลาดหุ้นปิดทำการ

การบ้าน

อันนี้ยากกว่าเพราะคุณต้องเรียนรู้จึงจะประสบความสำเร็จได้

เปิดแอป FBS และเพิ่มตัวบ่งชี้ Bollinger Bands (BB) ลงในกราฟ 5 นาที

เปิดแอป

lesson 3 ending_parts 1_optimized.gif

คุณจะเห็นว่ามันประกอบไปด้วยเส้นหลายเส้น ซึ่งไม่เหมือน RSI ที่มีเพียงเส้นเดียว ราคามีแนวโน้มที่จะเด้งไปมาระหว่างเส้นบนและล่าง ซึ่งจะทำให้คุณทราบถึงการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตได้

lesson 3 ending_parts 2_optimized.gif

เปิดสถานะซื้อในตอนที่ราคาแตะแถบล่าง

3_9.png

จับตามองสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีก 20-30 นาทีข้างหน้า คุณเพิ่งใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง?

ในบทเรียนถัดไปเราจะต่อยอดสิ่งนี้เพื่อสร้างกลยุทธ์ขั้นสูงมากยิ่งขึ้น

แบ่งปันกับเพื่อน ๆ: